การลูกเสือคือการเล่นที่มีวัตถุประสงค์
"Scouting is a Game with a Purpose"
"Scouting is a Game with a Purpose"
แนวความคิดในการนำคุณค่าของการลูกเสือสู่เยาวชน
ข้างกองไฟอันสงบเงียบ ดึกมากแล้ว คุณกำลังนั่งอยู่ข้างกองไฟ พวกลูกเสือพากันนอนหลับอยู่ในเต็นท์ของพวกเขาหรืออย่างน้อยคุณก็คิดว่าพวกเขาน่าจะหลับกันแล้ว อย่างไรก็ตาม นี่เป็นคืนแรกที่คุณพากันออกมาพักแรมกลางแจ้ง ขอกาแฟอีกสักถ้วยแล้วคุณก็จะยอมรับว่านี่มันมืดค่ำแล้ว คุณเพ่งมองไปยังถ่านไฟที่รางเลือน-ความทรงจำโบยบินย้อนไปสู่อดีตเมื่อครั้งที่ตัวคุณเองยังเป็นลูกเสือคนหนึ่ง
คุณเงยหน้าขึ้นและมองเห็นชายสูงวัยผู้หนึ่งนั่งอยู่บนขอนไม้ฝั่งตรงข้ามของกองไฟ หน้าตาดูคุ้นๆ ซึ่งก็ทำให้คุณใช้เวลาอึดใจหนึ่งกว่าจะนึกได้ว่าท่านคือใคร ท่านแต่งเครื่องแบบลูกเสือ ซึ่งแม้จะดูล้าสมัยแต่ก็สง่างาม นุ่งกางเกงขาสั้น ถุงเท้ายาว เสื้อแขนสั้น(เสื้อแบบเก่าล้าสมัย ไม่มีใครสวมเสื้อแบบนี้มาหลายปีแล้ว)สวมผ้าผูกคอวูดแบดจ์ มีวอกเกิล และสายบีดด้วย ใบหน้าของท่านแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาอย่างโชกโชน แต่ก็ยังดูหนุ่มกว่าวัย ดวงตาสีฟ้าสดใสคู่นั้นส่งประกายระยิบระยับเหมือนดวงตาของคนหนุ่มทีเดียว
ท่านมองข้ามกองไฟมาทางคุณแล้วยิ้ม ถึงตอนนี้คุณก็ค่อยๆนึกออก ไม่น่าเป็นไปได้ที่บุรุษผู้นั่งเผชิญหน้าอยู่กับคุณคนละฟากกองไฟนั้นคือ บี.พี.-“ผู้ให้กำเนิด”- “หัวหน้าลูกเสือโลก”
“คุณรู้ไหม” ท่านเอ่ยขึ้นในขณะที่โน้มตัวลงเขี่ยฟืนด้วยไม้เท้าตะปุ่มตะป่ำสีดำ
“ผมประหลาดใจอยู่บ่อยๆว่าการลูกเสือจะยังคงอยู่กับเยาวชนของโลกหรือไม่เมื่อผมจากไปแล้ว ขณะที่ความเจริญก้าวหน้าก็จะนำความเปลี่ยนแปลงทั้งหลายตามมา มีอะไรหลายสิ่งเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อแรกเริ่ม, ถึงสงครามโลกครั้งที่สอง และก้าวต่อมาคือเทคโนโลยี ชีวิตดูเหมือนจะยุ่งเหยิงสับสนอย่างมากในทุกวันนี้ และปัญหาทั้งหลายที่คุณมีในวันนี้ก็ยังเหมือนกับปัญหาทั้งหลายที่ผมได้เห็นเมื่อครั้งที่ผมเดินทางกลับจากการไปใช้ชีวิตในแอฟริกาเสียหลายปี”
สำเนียงการพูดของท่านเป็นอย่างที่เราจำกัดความได้ว่า “อังกฤษแท้”บุคลิกสบายๆและดูเป็นมิตร พลางกล่าวต่อไปว่า
“เมื่อผมเดินทางท่องเที่ยวไปในประเทศ ซึ่งก็คืออังกฤษนี่แหละ ย้อนไปในสมัยที่เกิด ‘สงครามครั้งแรก’ผมได้เห็นปัญหาของการขาดทิศทางของเยาวชนของเรา ผมได้เห็นอาชญากรรมและความยากจน, มาตรฐานของศีลธรรมตกต่ำ และ ระบบการศึกษา ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่สามารถสนองตอบต่อความต้องการของสังคม หรืออารยธรรมของเรา สิ่งนี้ทำให้ผมและคนอื่นๆอีกหลายคนเป็นห่วงอย่างยิ่ง“
“คุณอาจจะรู้ว่าการลูกเสือเริ่มต้นอย่างไร รู้เรื่องเกี่ยวกับเกาะบราว์นซี และ การลูกเสือสำหรับเด็กชาย นอกจากนี้ผมได้เล่าเอาไว้ในหนังสือ “บทเรียนจากมหาวิทยาลัยชีวิต - Lessons from the Varsity of Life ” ของผม ซึ่งเขียนขึ้นเมื่อปี1933 อันเป็นครั้งแรกที่ผมได้เขียนเกี่ยวกับการลาออกจากกองทัพบก :
“ต้องใช้แรงฉุดกระชากอย่างมาก ที่จะดึงก้าวสุดท้ายให้ล่วงพ้นออกมาจากกองทัพซึ่งผมรักอย่างยิ่ง ในขณะเดียวกัน ผมก็มิได้ถือเป็นเรื่องใหญ่ ในการที่จะยกเท้าออกจากขั้นบันได(ของการเลื่อนยศ-ตำแหน่ง) เนื่องจากผมเองก็มิได้มีความปรารถนาที่จะไต่เต้าขึ้นไปให้สูงกว่านี้ ”
“ในจดหมายที่รัฐมนตรีการสงครามส่งมาถึงผม ไม่มีคำพูดปลอบใจแม้แต่น้อย เพียงแสดงความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ในการสูญเสียผมไปจากกองทัพ” แล้วแถมด้วยถ้อยคำ ”แต่ผมรู้สึกว่าการจัดองค์การลูกเสือของคุณจะมีความสำคัญอย่างยิ่งในอนาคต โดยอาจเป็นการสนองคุณครั้งยิ่งใหญ่เท่าที่คุณจะอุทิศตนให้กับประเทศชาติได้ด้วยตัวของคุณเอง”
“ และแล้วก็ถึงกาลอวสานของชีวิตหมายเลข ๑“
“ผมได้เขียนไว้ใน ‘บทเรียนจากมหาวิทยาลัยชีวิต’ เกี่ยวกับการเริ่มต้นของชีวิตหมายเลข ๒ โดยได้อธิบายกฎง่ายๆในการพัฒนากรอบการทำงานของการลูกเสือ ดังนี้..“
เค้าโครง
“วัตถุประสงค์ของเราคือ เพื่อปรับปรุงมาตรฐานประชากรในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของบุคลิกภาพและสุขภาพอนามัย เราน่าจะต้องคำนึงถึงจุดอ่อนที่สำคัญในบุคลิกภาพของชาติและกำจัดจุดอ่อนเหล่านี้ให้ได้ผล โดยการเสนอสิ่งที่มีคุณค่าซึ่งหลักสูตรสามัญของโรงเรียนต่างๆไม่สามารถสนับสนุนได้ เช่น กิจกรรมกลางแจ้ง งานฝีมือ และ การบริการต่อผู้อื่น อันเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญอยู่ในลำดับต้นๆ”
“วัตถุประสงค์ในด้านบุคลิกภาพและสุขอนามัย ขยายความออกได้เป็น บุคลิกภาพ หน้าที่พลเมือง และ พลานามัย กว่า๘๐ปีต่อมาหลังจากนั้น วัตถุประสงค์ก็ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง”
“ ผมชอบที่จะกล่าวเสมอว่า 'การลูกเสือคือการละเล่นที่มีวัตถุประสงค์' แม้แต่ทุกวันนี้เราก็ยังคงสามารถกล่าวคำนี้อยู่ การลูกเสือเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ ๓ ประการ : นั่นคือ เกี่ยวข้องกับความสนุก ,คุณค่า และ การเรียนรู้ ความสนุกคือเกมการละเล่น การเรียนรู้คือกระบวนการ และ คุณค่าคือวัตถุประสงค์”
“ความท้าทายมีอยู่มากเช่นเดียวกับทุกวันนี้.. และ ผู้บังคับบัญชาลูกเสือก็ยังคงเป็นบุคคลสำคัญ ผมได้อธิบายบทบาทของผู้บังคับบัญชาลูกเสือเอาไว้หลายปีมาแล้วในหนังสือเล่มเล็กๆชื่อ “อนุเคราะห์แด่การเป็นผู้บังคับบัญชาลูกเสือ - Aids to Scoutmastership”
ผู้บังคับบัญชาลูกเสือนำทางเด็กๆด้วยจิตสำนึกของพี่คนโต
โดยธรรมดาแล้วเขาจะเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตใจของเด็ก เช่น:-
โดยธรรมดาแล้วเขาจะเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตใจของเด็ก เช่น:-
(๑) เขาต้องมีจิตใจของเด็กอยู่ในตัวและต้องสามารถวางตัวได้ถูกต้อง โดยมีเด็กๆของเขาเป็นความสำคัญลำดับแรก
(๒) เขาต้องตระหนักถึงความต้องการ, ทัศนะและความปรารถนาของชีวิตในวัยต่างๆกัน
(๓) เขาต้องสนใจปฏิบัติต่อเด็กเป็นบุคคล มากกว่าต่อเด็กทั้งกลุ่ม
(๔) เขาต้องส่งเสริมสำนึกของความร่วมมือระหว่างเด็กเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้ผลสำเร็จที่ดีที่สุด
(๒) เขาต้องตระหนักถึงความต้องการ, ทัศนะและความปรารถนาของชีวิตในวัยต่างๆกัน
(๓) เขาต้องสนใจปฏิบัติต่อเด็กเป็นบุคคล มากกว่าต่อเด็กทั้งกลุ่ม
(๔) เขาต้องส่งเสริมสำนึกของความร่วมมือระหว่างเด็กเป็นรายบุคคลเพื่อให้ได้ผลสำเร็จที่ดีที่สุด
ขณะที่ บี-พี กล่าวนั้น ถ่านไฟก็ค่อยๆมอดลง ขณะหนึ่งคุณจ้องมองเข้าไปในเปลวไฟ และครุ่นคิดถึงสิ่งที่ท่านได้กล่าวมา ดูเหมือนว่าเวลาจะได้ล่วงเลยไปแล้วหลายปี แต่เป้าหมายของการลูกเสือก็ยังคงเดิม คุณเงยหน้า ละสายตาขึ้นจากเปลวไฟ บี-พี หายไปแล้ว มันเงียบสงัด เด็กๆหลับกันหมดแล้ว เหล่าดวงดาวส่งประกายระยิบระยับขณะที่คุณเดินตรงไปที่เต็นท์ของคุณ ในใจยังคิดอยู่ตลอดเวลาถึงแขกผู้มาเยือน….. หรือว่า..สิ่งที่ได้พบเห็นจะเป็นเพียงจินตนาการในยามที่คุณจ้องมองเข้าไปในเปลวไฟ
อ้างอิง : WWW.pinetreeweb.com/ethics.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น